ในปัจจุบันผู้ปกครองโดยส่วนมากจะสอนลูกหลานให้ฝึกฝนในเรื่องต่าง ๆ เพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ในวันข้างหน้า และกลับพบกว่าเด็กรุ่นใหม่ในปัจจุบันมักมีความอดทนน้อย ยิ่งเป็นเรื่องเรียนด้วยแล้ว ไม่ว่าเรียนรู้เรื่องอะไร หากเด็กไม่อยากเรียนรู้เองคงยากที่จะบังคับได้ ยิ่งในปัจจุบันที่เด็กส่วนใหญ่ เรียกว่าคลอดออกมาจากท้องแม่ก็มีมือมือสมาร์ทโฟนออกมาด้วยเลย จะว่างั้นก็ได้ ทำให้เด็ก ๆ ในปัจจุบันมักอยู่กับสังคมโซเชียลมากกว่าที่ควรจะหาทักษะอะไรติดตัว พอถึงตรงนี้หลาย ๆ คนอาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่าแล้วจะให้เริ่มเรียนงานอดิเรกอะไรเพิ่มเติม ผมขอแนะนำด้านดนตรีครับ อะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นกีต้าร์ เปียโน ตีกลอง เครื่องเป่า เพราะสิ่งที่ดนตรีให้นั้น ไม่ได้มีแค่ทักษะทางด้านดนตรี กลับมีสิ่งที่เราทุกคนมองข้ามไป
งานวิจัยจาก University of Vermont College of Medicine ได้พบความสัมพันธ์ด้านตัวแปรของการเรียนเปียโนว่า การเรียนเปียโน หรือดนตรีต่าง ๆ นั้นไม่ใช่แค่เพิ่มทักษะด้านการเรียงลำดับด้านความคิดและการให้เหตุผลในชีวิตประจำวัน แต่ยังทำให้ผู้เรียนได้ลดความกระวนกระวายใจ ควบคุมอารมณ์หรือที่เรียกกันว่า Emotional Control และที่สำคัญสุดคงไม่พ้นเรื่องของการยับยั้งชั่งใจ ในเรื่องการควบคุมความโกรธอีกด้วย
การเรียนเปียโนจะช่วยพัฒนาเด็ก ๆ ให้มีเหตุและผล และยังช่วยพัฒนาเด็กที่มีปัญหาด้านสมอง ยกตัวอย่างเช่นโรคไฮเปอร์ในเด็ก ที่มักจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย และยังรักษาได้ยาก กลับเป็นเรื่องง่าย เป็นที่น่าเสียดายจริง ๆ ว่าเรื่องราวของงานวิจัยเหล่านี้ถูกมองข้ามและละเลยไป การเรียนเปียโน เรียนกีต้าร์ เรียนร้องเพลง มักถูกผู้ใหญ่มองเป็นแค่เพียงการฝึกทักษะทางด้านดนตรีเท่านั้น แท้ที่จริงหน่วยงานด้านการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา ยังพบรายงานที่ว่าเด็กในชั้นมัธยมของอเมริกา มากกว่า 75% ไม่เคยเรียนรู้เรื่องดนตรี หรือฝึกฝนใด ๆ เลย จากความเป็นจริงที่ได้จากข้อมูลนี้ทำให้ได้ผลสรุปออกมาชัดเจนว่าเรื่องราวนี้ได้ถูกละเลยไปมากแค่ไหน ทั้ง ๆ ที่งานวิจัยเหล่านี้ได้ค้นพบว่าจริง ๆ แล้วเด็กที่มีโอกาสได้เรียนรู้ทางด้านดนตรีนั้นจะมีทักษะทางด้านสังคมดีกว่าเด็กเคยเรียนหรือฝึกฝนใด ๆ
Mozart Effect ที่เป็นงานวิจัยและเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ของ Rauscher et al. ที่ได้เคยศึกษาในปี 1993 ทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มสังเกตเห็นและวิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ ทั้งทางด้านดนตรี การฝึกฝนและความฉลาด แน่นอนว่างานวิจัยอาจจะไม่ได้แสดงให้เราได้เห็นเป็นตัวเลขบ่งชี้ว่าจอห์นนี่นั้น มี IQ ที่เพิ่มขึ้น 10 จากการฝึกฝนเรียนรู้จากการเล่นเพลง Clementi sonatina (James Hudziak นักฟิสิกส์และะนักวิจัย) แต่งานวิจัยนี้ได้อธิบายทางวิทยาศาสตร์ไว้ว่า ดนตรีนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของสมองของผู้ที่เคยเรียนรู้และฝึกฝนทางด้านดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนเปียโน นอกจากนั้นยังเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการจัดเรียงความคิดและการประมวลหตุและผลจากการทดสอบทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย การฝึกฝนดนตรี การเรียนเปียโนนั้นสามารถเพิ่มความฉลาดของเด็กจากการบ่งชี้จากสมมติฐานที่สนับสนุนแนวคิดนี้ นอกจากนั้นยังบ่งชี้ถึงทักษะด้านการเข้าสังคมที่เพิ่มขึ้นจากการติดตามผล Hudziak ชี้แจงเพิ่มเติมอีกว่า เนื่องจากการศึกษาในภาคปัจจุบันที่ละเลยและไม่ได้ให้ความสำคัญของดนตรีเท่าที่ควรนั้นแสดงให้เห็นว่า ในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า ภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องควรที่จะเล็งเห็นและให้ความสำคัญที่จะศึกษาเรื่องการพัฒนาวิธีการใหม่ ๆ ในการส่งเสริมการเรียนรู้ทางด้านดนตรีเพิ่ม เรียกว่าเตรียมความพร้อมกันตั้งแต่ก่อนคลอดเลยก็ว่าได้ เพราะเด็กคืออนาคตของชาติ
ย้อนมาดูใกล้ตัวบ้าง เรื่องราวของการเรียนรู้ทางด้านดนตรีหรือเรียนเปียโนนั้นแท้ที่จริงผู้ปกครองที่จะส่งลูกหลานไปเรียนรู้นั้นมักจะคิดแค่อยากให้มีทักษะด้านดนตรีติดตัวเท่านั้น ทางภาครัฐอาจมีส่วนช่วยในการส่งเสริมและให้ความรู้กับผู้ปกครองอย่างชัดเจน หากคิดจะพัฒนาเด็กรุ่นใหม่ ก็ควรจะเริ่มศึกษาอย่างจริงจังถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนเปียโนที่มีมากกว่าที่คิดไว้มาก ๆ ผลลัพท์ที่ได้แน่นอนว่าได้มากกว่าที่คิดไว้แน่ ๆ จากคำขวัญที่ว่า เรียนดี กีฬาเดิน อาจจะต้องเพิ่มต่อท้ายไปว่า ดนตรีเยี่ยม ก็เป็นได้